คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่า คนไทยแทบทุกคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่น คงไม่มีใครที่ไม่เคยไป “อาซากุสะ” กันใช่ไหม? แต่จะมีสักกี่คนกันเชียวที่เคยใส่ยูกาตะเดินเล่นย่านนี้กัน … เอาล่ะวันนี้โอชินขอเป็นตัวแทนหมู่บ้าน พาเดินเล่นกินเที่ยว พร้อมพาใส่ชุดยูกาตะคู่กับหนุ่มญี่ปุ่นสุดฮอต หนุ่มคนนี้ใครเป็นสายญี่ปุ่นต้องรู้จักฮีเป็นอย่างดีแน่นอน~ ไปดูกันดีกว่าว่าเขาคือใคร??
แท่นแทนแท๊นนน..หนุ่มญี่ปุ่นคนนี้คือ!!!
มะม่วงเซนเซ! หรือ เคนจิซังของทุกคนนั่นเอง!!! ยูทูปเบอร์หนุ่มสุดหล่อ ที่คอยสอนภาษาญี่ปุ่นและให้ความรู้เรื่องญี่ปุ่นอยู่ตลอดๆ วันนี้ฮีเข้าเมืองมาโตเกียว โอชินเลยนัดกับฮีให้แบกชุดยูกาตะมาจากบ้านเกิด 5555 ถึงกับแบกขึ้นชินคังเซ็นมากันเลยทีเดียว อิอิ
วัดเซ็นโซจิ (SENSOJI TEMPLE)
ถ้ามาย่านอาซากุสะกันแล้ว คงจะหนีไม่พ้นต้องมาไหว้พระกันที่วัด ”เซ็นโซจิ” หรือที่หลายๆคนอาจเรียกติดปากกันว่า ”วัดอาซากุสะ”กันไปแล้วก็ได้ ซึ่งภายในวัดจะมีจุดไหน ของกินอะไรอร่อย ถ่ายรูปตรงไหนกับชุดยูกาตะของพวกเราแล้วได้มุมชิคสุดๆ ไปดูพร้อมๆกันเลย
ถ่ายรูปที่โคมแดง “คามินาริมง” หน้าวัด ”อาซากุสะ”
โผล่ออกมาจากรถไฟ หรือจะลงจากรถที่มีคนขับมาส่งหน้าวัดแบบสวยๆ ก็ต้องมาเจอกับโคมไฟสีแดงระย้าลูกใหญ่ๆ ที่หน้าวัดกันก่อน จุดนี้คนญี่ปุ่นจะเรียกกันว่า ”คามินาริมง” ถามว่าโคมแดงที่หน้าวัดโคมนี้ใหญ่ขนาดไหน? ต้องบอกเลยว่า 700 กิโลกรัมกันเลยน้ะจ้ะ ถ้าแผ่นดินไหวตกลงมาใส่หัวใคร..น่าจะหัวแบะเป็นโจ๊กแน่ 55555
ประวัติโคมแดง”คามินาริมง”
จริงๆแล้วจุดนี้มันคือประตูทางเข้าวัดเซ็นโซจิ ซึ่งมีชื่อเต็มๆว่า ประตูฟูไรจินมง ซึ่งจะมีโคมแดงอยู่ตรงกลาง และ สองฝั่งข้างจะขนาบไปด้วยรูปปั้นเทพเจ้า ฟูจิน(เทพแห่งลม) และ เทพเจ้า ไรจิน(เทพแห่งสายฟ้า) แล้วเมื่อชื่อเก่ามันยาวเฟื้อยยย คนญี่ปุ่นเลยเรียกย่อๆและให้เข้าใจง่ายจนกลายเป็น ”คามินาริมง” คนไทยอย่างเราฟังแล้วคงแบบ อิหยังวะ? มันง่ายกว่าชื่อแรกตรงไหนมิทราบ…? 5555
อร่อยกับร้านค้าใจกลางวัดอาซากุสะ (วัดเซ็นโซจิ)
เมื่อเราสองคน โอชินและคุณมะม่วงเดินกรุยกรายด้วยชุดยูกาตะผ่านประตู คามินาริมง พร้อมแชะภาพกับโคมแดงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะมาถึงถนนเล็กๆเส้นตรง ที่สองฝั่งข้าง รายล้อมไปด้วยร้านค้าขายขนม ของฝาก และของกินเล่นระหว่างทางเต็มไปหมด ซึ่งตรงนี้เราจะเรียกว่า ”นากะมิเสะโดริ”
นากะ แปลว่า ข้างใน
มิเสะ แปลว่า ร้านค้า
โดริ แปลว่า ทาง
แปลรวมกันได้ว่า ทางเท้าร้านค้าด้านใน ? 5555 อารมณ์ประมาณ Walking Street นี่แหละค่ะ ภาษาเข้าใจง่ายๆ ย่านนี้จะรวบรวมร้านค้าเก่าแก่ในโตเกียวไว้เพียบ รวมๆทั้งหมดมากกว่า 90 ร้านค้ากันเลยทีเดียว แต่เนื่องด้วยผลกระทบจากโควิด อาจมีบางร้านได้ปิดตัวไปบ้าง บรรยากาศก็อาจจะไม่ครึกครื้นเหมือนเคยๆ แต่คนญี่ปุ่นท้องถิ่นเค้าก็ยังฮิตมาเที่ยวที่นี่ ใส่ยูกาตะกันมาเดินมุ้งมิ้งอยู่นะ ไม่ว่าจะมาแบบคู่รัก หรือมาเดทกันแบบเพื่อนสาว
แวะชิมน้ำเลม่อนเนดที่ นากะมิเสะโดริ
ขนม นม เนย สองข้างทางอะไรๆก็ดูน่ากินไปหมด วันนั้นโอชินเลยจัด น้ำเลม่อนเนดคั้นสด คนละ 1 แก้วกับคุณมะม่วง กินแล้วสดชื่นดี
ถ้าอากาศร้อนๆ แต่ไม่ถึงขั้นกับอร่อยจนร้องว๊าวหรอกนะ 5555 ค่อนข้างมีความเปรี้ยวโดดเลย
แต่ที่อยากจะแนะนำคือร้านขนมโมจิใส้สตรอเบอร์รี่เสียบไม้ มาพร้อมกับเซียมซีเสี่ยงทายเรื่องความรัก น่ารักมากๆ แถมอร่อยด้วยอ่ะ (แอบไปกินมาวันอื่นตอนมาคนเดียว 5555) ร้านจะอยู่ตรงกลางของถนนเส้นนี้เลยค่ะ
โฮโซมง ประตูที่ 2 ก่อนถึงด้านในวัดอาซากุสะ
กินอิ่มแล้ว เดินผ่านนากะมิเสะโดริครบทุกร้านแล้ว เราจะเจอกับโคมแดงอีกอัน ซึ่งตรงนี้จะเป็นประตูททางเข้าที่มีชื่อว่า โฮโซมง ประตูโฮโซมงตรงนี้ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อความสวยงามเกร๋ๆนะ ด้านบนของประตูจะเป็นที่เก็บอุปกรณ์ช่วยเหลือสำหรับเมื่อเกิดภัยพิบัติด้วย โอ้โหสมกับเป็นญี่ปุ่นจริงๆ ใช้พื้นที่ทุกส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
และที่สำคัญ สายมูคงจะชอบสิ่งนี้ไม่น้อย นั่นก็คือ รองเท้าบิ้กเบิ้มที่ทำจากฟาง เป็นสัญลักษณ์เพื่อปัดเป่าภัยร้ายปลุกเสกโดยเทพเจ้านิโอ เจ้ารองเท้าทีทำจากฟางคู่นี้ไม่ไช่ใหญ่แต่เบานะ เพราะมีน้ำหนักถึง 2,500 กิโลกรัม
เป็นยังไงบ้างคะ แค่ประตูที่ 2 สายมูคงอดใจกันไม่ไหวแล้ว ป่ะๆ เข้าไปด้านในกันดีกว่า….
จริงๆผ่านประตูนี้เข้ามาเราจะเจอกับโซนเสี่ยงเซียมซีและ โซนขายของเครื่องลางนำโชคในด้านต่างๆ แต่โอชินและมะม่วงจะเดินผ่านว๊าร์ปเข้าไปด้านในก่อน แล้วค่อยกลับมาเสี่ยงดวงกันอีกทีนะคะ อิอิ
อาบควันธูปกันที่ โจโคโระ
ก่อนจะขึ้นไปสักการะบูชาเทพของวัดนี้ เราจะต้องทำการจุดธูปแล้วมาอาบควันธูปเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อน เพราะคนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าควันธูปจะช่วยรักษาปัดเป่าสิ่งไม่ดีในร่างกายให้ออกไป โอชินกับมะม่วงเลยอาบกันแบบจัดหนัก 5555
ต่อแถวสักการะเทพแบบวัฒนธรรมญี่ปุ่น
เอาล่ะปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกจากตัวกันไปแล้ว เรากลายเป็นคนสะอาดเอี่ยมอ่อง 5555 ทีนี้เปิดกระเป๋าควานหาเหรียญ 5 เยนไว้เลย เพราะเราจะต้องใช้เหรียญนี้ในการเคารพเทพเจ้าของวัดนี้ค่ะ โยนเหรียญไปก่อน จากนั้นปรบมือ 2 ครั้งและทำการไหว้หรืออธิฐานได้เลย
เสี่ยงเซียมซีที่วัดอาซากุสะแม่นมาก!
โอชินจะบอกว่าเซียมซีที่นี่แม่นจนน่ากลัว น่ากลัวมากกกกก ไปกี่ทีคือแม่นตรงเป๊ะๆ วันนั้นเราสองคนจัดไปคนละเซ็ท ก็คนละ 100 เยน ( 30 บาท ) เซียมซีที่ญี่ปุ่นคือแน่นมากกกก กว่าจะเคาะออกมาได้ใช้เวลาพอควรเลยค่ะทุกคน 5555 ซึ่งระดับดวงมันจะมีความเหี่ยถึงระดับปังมากกก แบ่งได้ตามตัวคันจิที่ได้ดังต่อไปนี้
โอชินและมะม่วงก็คือดวงจู๋ทั้งคู่ได้ผลเซียมซีคือ โชคร้ายมา 55555 แล้วหลังจากนั้นนะ คือดวงตกเลยจ้าาาา แบบโดนโกงเงิน แบบโอ้ยยยยยยยยไว้ใจคนผิดอะไรแบบนี้ ซวยสุดเลย อาจจะเป็นเพราะเบญจเพศด้วยก็เป็นได้
ถ้าใครที่ได้โชคร้ายมา อย่าได้เอากลับบ้านมาด้วยนะคะเจ้าใบเซียมซีเนี่ย ให้เอาไปผูกไว้ที่วัดเนี่ยแหละ เอาความซวยทิ้งไว้ จะได้ไม่ซวยหนัก 5555
กินพิซซ่าญี่ปุ่นที่ HOPPY STREET
ในเมื่อดวงมันจู๋ เราไปหาของหรูๆกินกันดีกว่า 5555 เกี่ยวไหมวะ ? จบภารกิจการเข้าวัดเสี่ยงเซียมซีแล้ว โอชินเลยขอพาคุณมะม่วง (คนญี่ปุ่นปลอม555) ทัวร์ย่านนี้สักหน่อย เดินทะลุกันมาด้านหลังวัดจะเจอกับ HOPPY STREET เป็นแหล่งโซนกินดื่มที่คึกคักเปิดให้บริการกันตั้งแต่กลางวัน ร้านอาหารจะเป็นแนวๆโบราณเหมือนย้อนยุคไปสมัยเอโดะ ร้านจะเป็นอิซากายะสไตล์บ้านๆ ไม่ได้หรูหรา เน้นความมันส์ แต่ราคาไม่ถูกน้ะจ้ะ 5555
เราเลือกกินกันที่ร้าน KANOYA
ร้านนี้ค่อนข้างใหญ่ ภายในสะอาดสะอ้าน ขายพิซซ่าญี่ปุ่น และ มงจะ (คล้ายขนมผักกาดบ้านเรา) อาหารอร่อยใช้ได้ นอกจากพวกพิซซ่าญี่ปุ่นก็มีเครื่องเคียงอื่นๆให้กินด้วย ที่สำคัญทำเองบนเตาร้อนๆ หรือจะให้พนักงานทำให้ก็ได้ ร้านนี้แนะนำเลยค่ะ ทั้งญี่ปุ่นอย่างคุณมะม่วงและโอชินบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ”อร่อยดเหาะ”
พิกัดร้าน KANOYA
2 Chome-4-11 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032
ไอศกรีมชาเขียวที่เข้มข้นที่สุดในโลก
มาอาซากุสะถ้าไม่ได้กินร้านนี้ถือว่ามาไม่ถึงน้ะจ้ะ มีไอศกรีมเจลลาโต้ให้เลือกความเข้มข้นถึง 7 ระดับ ว่ากันว่าเข้มข้นที่สุดในโลกกันเลยนะ ! และวันที่โอชินกับมะม่วงไปก็มีรสใหม่ ที่เป็น SEASONAL MENU ของช่วงนั้นคือ ชาเขียวเลม่อน โอชินเลยลองซะหน่อยยย รสชาติปะแล่มมาก 55555 ไม่แนะนำอย่างแรง ลองชาเขียวธรรมดาแบบออริจินัลเนี่ยดีที่สุดแล้ว เพราะแอบไปจกของคุณมะม่วง คุณพี่เค้าสั่งระดับ 5 กับ 7 แซ่บหลายทั้งคู่ค่า แต่ส่วนตัวชอบระดับ 7 เข้มข้นดี
พิกัดร้าน Suzukien Asakusa ( เดินจากวัดประมาณ 3 นาที )
3 Chome-4-3 Asakusa, Taito City, Tokyo 111-0032
วิธีการเดินทางมาเที่ยว Asakusa
เมื่อกินของหวานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เอาเป็นว่า จบทริปค่า พาหนุ่มญี่ปุ่นทัวร์โตเกียว 55555 สำหรับการเดินทางมาเที่ยว Asakusa แบบพวกเรานั้นทำได้ง่ายมากๆ เสิร์ช Google เลยค่ะ 55555 พี่กูจะบอกขั้นตอนการเดินทางแบบประหยัดเวลาที่สุดให้ ว่าต้องขึ้นรถไฟสายไหน เพราะจะมาด้วยรถไฟสายอะไรนั้นมันขึ้นอยู่กับสถานที่ตั้งต้นของแต่ละคน พิมพ์ไปในกูเกิ้ลว่าสถานี ASAKUSA ได้เลย