สวัสดีค่า ชะนีน้อยโอชินคนดีคนเดิมเพิ่มเติมคือความปวดตับกับการไปซื้อไอแพดโปร ipad pro 2020 กว่าจะได้มันมาคือเลือดตาแทบกระเด็นมากกก ความญี่ปุ่นคือญี่ปุ่นจริงๆ มันยุ่งยากวุ่นวายไปหม๊ดดดด  

ทำไมโอชินถึงอยากซื้อ ipad pro 2020 ในญี่ปุ่น?

ขอเกริ่นก่อนตั้งแต่ช่วงกักตัวจากโควิดมาคือ Work From Home มาเป็นเดือนที่ 4 แล้ว ปกติคือแบบจะต้องหากิจกรรมทำตล๊อดดด ว่างจัดก็เลยอัดคลิปนู่นนี่ แล้วทีนี้ปัญหาต่อมาคืออยากจะตัดต่อ !!!  อิชั้นก็ไปเจอแอพที่สามารถตัดต่อในโทรศัพท์ได้ค่า ! 

แล้วทีนี้ลองตัดผ่านมือถือดูก็คือลูกเล่นใช้ได้แต่มาเพ่งในมือถือแล้วลูกตาจะหลุด555 เลยอยากหาอุปกรณ์เสริมทีมันจะทำให้การตัดคลิปของเราสบายขึ้น 

ข้างล่างเป็นคลิปแรกที่ลองตัดด้วยแอปในมือถือนะคะ

ใครอยากรู้ว่าแอพอะไร IB มาถามกันในเฟซบุคเพจได้เลยคร๊าบบ

จบไปค่ะ กับเรื่องการตัดต่อ ทีนี้ไอ้เราก็ลองหาๆข้อมูลดูว่าจะมีวิธีไหนที่ทำให้การตัดต่อเราง่ายขึ้นไหม? ปรากฎว่า ipad pro 2020 คือเหมือนจะดีย์ คือถ้าได้มาแล้วเหมือนชีวิตจะดืออ ดืออแบบคาดิบี?5555  นั่นแหละเลยจัดการเปิดเว็บ Apple ในญี่ปุ่นเช็คราคาดูสักหน่อย

ราคาไอแพดโปร 2020 ในญี่ปุ่น

ราคาเครื่องก็คือใช้ได้…แบบแพงใช้ได้5555555 ราคาเท่านี้คือซื้อแมคโปรได้เลยอ่ะแม๊!! จริงๆโอชินก็อยากจะซื้อแมคโปรอยู่ เพราะแมคที่มีอยู่มันเป็นแมคแอร์ที่ซื้อตั้งแต่ 2013 อาการมันมึนๆงงๆ มันเป็นงึกๆงักๆมาก เคยเอาไปให้ช่างซ่อมคอมในญี่ปุ่นดูนางบอกว่าซื้อใหม่เถอะครับ แป๊วววว จ่ะเก็บไว้ดูเน็ตฟลิคค่ะ ผีบอกกกกกกกกกกก

ในส่วนของตัวเครื่องipad pro 2020ที่เราว่ามันแพงแล้วมาเจอ  Accessory คือแรว๊งงไม่แพ้กัน

ราคา Accessory สำหรับ Ipad pro 2020

โอชินตัดสินใจซื้อipad pro 2020และ Accessory อะไรบ้าง?

สรุปแล้วเราตั้งใจจะซื้อ

• ipad pro 2020 ตัว 256GB wifi+Cellular
• Apple pencil 1 ด้าม
• Magic Keyboard 

รวมราคา 200,000 กว่าเยน !!!!! เห็นราคาแล้วก็แบบแม่จ้่าววว ควรซื้อหรือม๊ายยย 

และ ณ ตอนนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็น…. “ซื้อภายในสิ้นเดือนนี้ ผ่อน0% นาน24 เดือน”

อ้าวววผ่อนสิครับรอไร 5555 เพราะถ้าผ่อนแบ่งจ่าย 24 เดือนเท่ากับว่าต้องจ่ายแค่เดือนละประมาณ 10,000 เยน หรือ 3,000 บาท เป็นคุ้มมากจริงๆ

ควรซื้อ ipad pro 2020 ผ่าน Apple online store ในญี่ปุ่น หรือไปที่ช็อปมันเลยจะดีกว่า?

ไม่รู้ว่าที่ไทยเหมือนกันหรือเปล่า คือการซื้อในออนไลน์กับการไปซื้อที่ช็อปแตกต่างกัน

นานาจิตตังเรื่องนี้ต้องไปพิจารณากันเอาเองนะคะ เพราะโอชินลองทั้งสองทางแล้ว… สุดท้ายเรื่องราวเป็นยังไงเดี๋ยวรออ่านกันตอนท้าย

ข้อดีของการซื้อ ipad pro 2020 ผ่านออนไลน์ในญี่ปุ่น

1.สามารถสลักชื่อได้ทั้งตัวเครื่องและปากกา

(แต่ทำได้เพียงแค่ 2 ภาษาเท่านั้น คือภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น)

2.ไม่ต้องเสียเวลาต่อแถวไปรอเข้าช็อปเนื่องจากช่วงนี้โควิดยังไม่หายขาดจึงมีการต่อแถวรักษา Social distance (แต่ในรถไฟญี่ปุ่นคนก็แน่นอยู่ดี555)

3.หากต้องการซื้อแบบผ่อนสามารถกรอกลงทะเบียนได้อย่างง่ายดายไม่ยุ่งยากเท่าที่ช็อปและไม่ต้องเสียเวลานั่งรอ และไม่ต้องเจอพนง.ที่ไม่ค่อยเวิร์คแบบโอชิน(ดวงซวยมาก555 เดี๋ยวไว้มาเล่าตอนท้าย)

ข้อเสียของการซื้อ ipad pro 2020 ผ่านออนไลน์ในญี่ปุ่น

1.รอของนานและบางทีอาจจะไม่สามารถกำหนดเวลาส่งของได้ตามที่เราต้องการ

แค่นี้ แค่นี้จริงๆ555555555

ข้อดีของการซื้อ  ipad pro 2020 ในช็อป

1. ได้ของเร็ว ก็คือไปต่อแถววันนั้นก็จะได้ของเลย
2. สามารถสัมผัสลองเล่นตัวเครื่องได้

ข้อเสียของการซื้อ  ipad pro 2020 ในช็อป

1. ต้องไปต่อคิวรอรับ QR QUOTE เพื่อแจ้งเวลาที่สามารถเข้าไปในช็อปได้
2. ในกรณีที่อยากซื้อแบบผ่อน 0% ก็คือทำเรื่องรอนานมากๆ 
3. ทั้งไอแพดและปากกาไม่สามารถสลักชื่อได้
4. อาจจะเจอกับพนักงานทีไม่ถูกจิตถูกใจก็เป็นได้

การซื้อเครื่อง ipad pro 2020 แบบ wifi+cellular model ไม่ว่าจะเป็นกับช็อป apple store หรือ apple online store จะได้แถมซิมฟรี(ปกติที่ญี่ปุ่นเนี้ย จะซื้อซิมทีจะต้องเสียค่าเปิดเบอร์บลาๆ อะไรเยอะแยะไปหมด ติดสัญญาบ้างอะไรบ้าง บ้าบอเยอะแยะมากกก ไหนจะต้องมีบัตรเครดิต บลาๆ)  แต่ถ้าซื้อกับพวกร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Yodobashi , Bigcamera อาจจะโดนบังคับให้เซ็นสัญญาซิม

ยอมไปต่อแถวซื้อ ipad 2020 เพราะอยากได้เครื่องไวไว

ในตอนแรกโอชินช่างน้ำหนักแล้วก็สรุปได้ว่าจะไปซื้อช็อป ซึ่ง ไปถึงก็บ่ายโมงกว่าๆ

ตกใจมากกกก คนรอคิวยาวเหยียดดด อาการมันเป็นยังไงเดี๋ยวแปะคลิปไว้ให้ดู

คือมีความ New Normal มากจ้าา เอาเถอะก็คือใช้เวลานานมากกกกก

ออกมาจากช้อปคือตะวันตกดินแล้ว และที่สำคัญไม่ได้ของ!!! 

ทำไมถึงไม่ได้ของทั้งๆที่ลงทุนไปช็อป เกิดอะไรขึ้น???

ปัญหามันอยู่ตรงนี้ คือโอชินเลือกแบบซื้อผ่อน 0%  มันต้องทำเรื่องกับสถาบันการเงินที่ขื่อว่า ORICO ซึง่มันต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านมือถือ โดยปกติแล้วการที่ต่างชาติจะทำอะไรแบบนี้ พนง.จะต้องของบัตร Residence Card หรือบัตรประชาชนสำหรับต่างชาติ

ในบัตร Residence Card จะมีรายละเอียดเรื่องของวีซ่าและข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ 

ไอ้เราก็งงมาก พนง.ไม่ขออะไรไปสักอย่าง แล้วพอตอนกรอกชื่อ

ปกติที่ญี่ปุ่นจะให้กรอกเป็นตัวอักษรทั้งสองแบบคือ คันจิและคาตาคานะ โดยทั่วไปชื่อคนต่างชาติไม่มีคันจิดังนั้นจะต้องกรอกเป็น ภาษาอังกฤษในช่องที่ให้กรอก คันจิ

แต่ปรากฎว่าคุณ พนง. คนสวยบอกให้เรากรอกเป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ ! 

เราก็แอบเอะใจแต่ก็เออคงไม่เป็นไรมั้งก็พนง ว่าไม่เป็นไร 

พอกรอกข้อมูลเสร็จ นางบอกว่ารอทางสถาบันการเงินติดต่อมานะคะ เวลาผ่านไป…..ครึ่งชั่วโมง

แม่นางเดินมาบอกว่าขอ Residence Card ด้วยค่ะ 

ผ่านไปอีก 15 นาที 

นางเดินทางอีกรอบ แล้วบอกว่าต้องกรอกฟอร์มใหม่ทั้งหมด 

เพราะต้องกรอกชื่อเป็นภาษาอังกฤษ

(เมื่อกี้กรอกเป็นภาษาญี่ปุ่นไปตรงช่องคันจิ)

เห้ยยยยยยยยยยยยยยยยย ถามมมเจงงงง? ล้อเล่นป่ะ?

ดูเหมือนว่าเค้าจะเป็นพนักงานใหม่ก็เลยนึกถึงใจเค้าใจเลย เค้าคงไม่รู้แหละ

กรอกเสร็จรออีกเกือบชั่วโมง……

ผลปรากฎว่า เนื่องจากคุณคือต่างชาติ ทางสถาบันการเงินต้องการให้มีคนญี่ปุ่นมาเซ็นรับรอง

เห้ยยยยย คือรอตั้งนานมากๆถ้ามีกฎเกณฑ์แบบนี้ควรบอกตั้งแต่แรกไหม?

แต่มันอาจจะเกิดเหตุมาจากว่าโอชินมีวีซ่าทำงานในญี่ปุ่น แต่ฐานเงินเดือนน้อยนิดก็เป็นได้ (นายจ๋าถ้าอ่านอยู่โปรดขึ้นเงินเดือนให้หนูด้วย!)

ก็คือสรุปวันนั้นอารมณ์เสียเดินตูดบิดออกจากช็อปเพราะอิชั้นไม่ได้เอาคนญี่ปุ่นไปด้วย

เอาจริงๆโมโหมากนะแล้วอยากเอาชนะด้วย รู้สึกว่ามันไม่ค่อย Make sense สักเท่าไหร่

เลยลองกลับบ้านมากรอกซื้อออนไลน์และทำเรื่องกู้ผ่านออนไลน์ดูแบบจบๆ

เพราะอยากจะรู้ว่าถ้าทำผ่านออนไลน์แล้วมันจะให้คนญี่ปุ่นเซ็นผ่านออนไลน์รูปแบบไหน

ซึ่งคือขั้นตอนก็เยอะใช่ได้ ทำยุ่งทำยากนานมาก ผลคือนั่นก็ยังไม่ได้แปลว่าเราจะได้ของนะ

ยังมีอุปสรรคอีกจ้า โปรดติดตามตอนต่อไป….