เวียนวนมาเกือบครบปีแล้ว สำหรับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาด ระบาดไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริงๆ

สิ้นปีเหมือนสิ้นใจ โอชินไม่ได้ออกไปล่ายามค่ำคืนเกือบปีแล้วหรือนี่ สิ้นปีนี้เลยขอออกไปเที่ยวหน่อย

ซึ่งมันคือการเที่ยวแบบไม่มีแพลน ไม่ได้วางแผน ไม่ได้จองโรงแรมอะไรใดใดเลย555555 กะว่าจะไปสัก 3 วัน 2 คืน แค่มีจังหวัดที่อยากจะไปอยู่ในหัวคือ Gunma และ Nagano

คือสองจังหวัดนี้มันอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวมาก เดินทางไม่น่าเหนื่อยหรอกเนอะๆ (คิดเอาเอง555)

เอาจริงๆถ้าไม่มีแพลนแบบนี้ในสถาการณ์ที่ปกติในญี่ปุ่นล่ะก็ ไม่รอดจ่ะ นอนในป่าแน่ๆเพราะคนที่นี่เค้าจะต้องเตรียมตัวเป๊ะๆทุกอย่าง โรงแรมไม่น่าว่าง ตั๋วรถไฟเอย ร้านเช่ารถเอยคือไม่รอดไม่มีว่างให้ได้ใช้งานแน่ๆ

กำหนดวันเดินทาง!!

ทั้งหมดทั้งมวลคือ คิดก่อนวันออกเดินทาง 1 อาทิตย์แล้วสรุปมาได้ว่าจะไปวันที่ 31 ธันวา 2020 – 2 มกรา 2021

เดินทางยังไง?

เนื่องจากไวรัสโคโรน่าอันแสนน่ากลัว โอชินเลยเลือกการเดินทางโดยการเช่ารถ ซึ่งมันสะดวกต่อการเดินทางมากกว่านั่งรถไฟอยู่แล้ว เพราะโอชินมีสมาชิกที่จะเดินทางไปด้วยกันถึง 4 คน !! หารค่าเช่ารถแล้วก็คุ้มเกินคุ้มค่าทุ๊กกคน

เตรียมตัวเช่ารถยังไง?

เรื่องการเช่ารถนี่บอกเลย งง งวยมากกก เบื่อความญี่ปุ่นชอบหลอกมากกก โอชินโดนยุ่นหลอกบ๊อยยยบ่อย5555

เรื่องมันมีอยู่ว่าโอชินโทรไปร้านเช่ารถของ Toyota Rent A car แถวบ้านก่อนวันเดินทางหนึ่งวัน แล้วแจ้งรุ่นรถที่ต้องการพร้อมแจ้งเค้าว่าเราจะเดินทางไปยังจังหวัดที่มีหิมะ ล้อต้องเป็นแบบสำหรับหิมะด้วย สาขาแถวบ้านบอกเราว่า อ่อรถทุกรุ่นของเราตอนนี้ไม่มีล้อสำหรับออกลุยหิมะเลยครับ

เงิบบบเลยจบกัน นั่งเศร้าอยู่สักพักเลยลองโทรไปอีกสาขาที่ไกลออกจากบ้านไปหน่อย ปรากฎมีเฉยยยย มีทั้งรุ่นที่ต้องการและมีทั้งล้อสำหรับลุยหิมะ และที่พีคกว่านั้นสาขาที่มีรถคือ สาขาใกล้บ้านที่โทรไปครั้งแรก!!!?

ผ่ามมมมม งงมากแม่555555555 เอาเป็นว่าได้รถสำหรับเดินทางไปจังหวัด Gunma และ Nagano มาแว้วว เช่าทั้งหมด 3 วัน รวมเป็นเงินประมาณ 40,000 เยนนิดๆ (12,000THB)

เริ่มออกเดินทางไปจังหวัด Gunma

ถ้าพูดถึงจังหวัด Gunma บอกเลยว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อหลายที่ และมีกิจกรรมให้ทำแตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ซึ่งสิ้นปีแบบนี้อากาศที่ญี่ปุ่นกำลังเย็นยะเยือกเป็นหิมะ สถานที่ที่น่าไปที่สุคือ Onsen

Kusatsu Onsen, Gunma

ออนเซ็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่นเลยในจังหวัด Gunma คือ Kusatsu Onsen แหล่งรวมกำมะถัน ชั้นเลิศ ถึงกับติดหนึ่งใน 3 ของสุดยอดออนเซ็นในญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว

แหมมมม โปรไฟล์อลังการงานสร้างแบบนี้โอชินจะไม่แวะไปได้ยังไงกัน ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวด้วยรถส่วนตัวก็ประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆ

ระหว่างทางไปเนี่ยแทบไม่เห็นหิมะเลย แต่พอใกล้ๆถึงเท่านั้นแหละ ถนนหนทางข้างทางเต็มไปด้วยหิมะ โปรยปรายเต็มไปหมด พื้นถนนนี่ขาวโพลนเลยจ้า

ก่อนถึงตัว Kusatsu Onsen สัก 30 นาที ระหว่างทางจะมีป้ายข้างทางบอกให้ใส่ Chain หรือโซ่ที่ล้อเพื่อกันรถลื่น จริงๆแล้วถึงแม้ว่ายางรถยนต์ที่เช่ามาจะเป็นยางที่เหมาะสำหรับวื่งบนหิมะก็เถอะ แต่หากหิมะตกลงมาหนามากๆก็เอาไม่อยู่ รถแกว่งแน่นอน

ครั้งแรกกับการได้เห็น Kusatsu Machi ด้วยตาตัวเอง

โอ้โหถ้าใครที่มาเที่ยว Kusatsu Onsen ทุกคนต้องมารวมตัวกันตรงนี้จ้า เพราะที่นี่คือ เมือง Kusatsu Onsen จะมีออนเซ็นอยู่ตรงกลางอันใหญ่ๆ แต่ลงไปแช่ไม่ได้นะ ควันจะลอยออกมาเต็มไปหมด ส่วนกลิ่นตะลบอบอวลไปด้วยกำมะถัน มาช่วงหิมะตกก็คือจะมีความโรแมนติกมากๆ

และนี่ทั้งๆที่เป็นวันสุดท้ายของปี ปกติที่นี่จะต้องแน่นเอี๊ยดไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ แต่คนบางตามากๆๆๆๆ คือโล่งเพราะพิษโควิดจริงๆ

บรรยากาศรอบๆ Kusatsu Machi ตรงรอบๆตัวออนเซ็นตรงกลาง จะถูกรายล้อมไปด้วยร้านอาหาร โรงแรมแบบเรียวกัง และบ่อออนเซ็นสาธารณะ

แวะกินข้าวกลางวันกันที่ Kusatsu Machi

ร้านอาหารแถว Kusatsu Onsen ในตอนกลางวันของวันนี้ คือเงียบมากๆ อาหารส่วนใหญ่เป็นพวก โซบะ เทมปุระเสียส่วนใหญ่ แต่พวกเนื้อย่าง ไก่ปิ้งเสียบไม้อะไรแบบนี้ก็มีพอให้เห็นประปราย โอชินและเดอะแก๊งค์เลือก เป็นร้าน”เทมปุระ

รสชาติคือละมุนมากๆ ละมุนจนจืด จืดเกินไป555555 ไปกันทั้งหมด 4 คน กินหมดเกลี้ยงชามแค่คนเดียว ฉะนั้นโอชินไม่ขอเอ่ยชื่อร้านนะคะ อย่านะคะๆ55555

เมื่อหนังท้องอิ่มแล้ว บอกเลยตรงนั้นไม่มีอะไรให้ทำนอกจากการแช่ ออนเซ็น 555555 เราเลยเลือกโรงแรมของคืนนั้นกันสดๆ ปรากฎว่าโรงแรมที่ได้อยู่ไม่ไกลจาก Kusatsu Machi เท่าไหร่ ขับรถไปไม่ถึง 10 นาที

พวกเราจองผ่าน Rakuten Travel ได้มาในราคา 23,000yen / 4 คน ตอนแรกคิดว่าเออถูกดี แต่ปรากฎว่าพอไปถึง………อื้มมมรู้เลยยย

โรงแรมหลอนๆใน Kusatsu Onsen

พอขับรถไปถึง โรงแรม โอ้ววโหวววทุกคนอึ้งมากกก บรรยากาศรอบข้างคือเงียบสงัดทั้งๆที่กลางวันแสกๆ แล้วโรงแรมที่เราเลือกเหมือนจะเป็น Home stay ซะมากกว่าหรือจะเรียกว่า เรียวกังจิ๋วดี?

เปิดเข้าไปคือสภาพค่อนข้างเก่าใช้ได้ เป็นสภาพเหมือนบ้านญี่ปุ่นสมัยก่อน. Reception ไม่มีใครอยู่เลย…..

ตอนนั้นคือแอบขนหัวลุกเล็กๆ5555 ซักพักมีลุงแก่ๆออกมาและถามรายละเอียดพร้อมให้รอนานเกือบ 30 นาทีเพราะแกยังไม่ได้เตรียมห้อง อ่ะผ่านนนนไปได้เข้าไปในห้องเห็นสภาพ โอ้วววววววว

ทั้งเก่าทั้งแอบหลอน55555 มีแต่ห้องเปล่าๆกับฮีทเตอร์เล็กๆ 1 ตัว โอ๊ะโอห้องน้ำรวมด้วยจ้า หมายถึงห้องส้วมก็รวมเด้ออออออ ชุดนอนก็ไม่มีให้เพราะเราเลือกแพลนแบบถูกมา ต้องซื้อเพิ่ม 500 เยน เบ็ดเสร็จคืนนั้นเสียเงินไปทั้งหมด 28,000 yen /4 คน ค่าอะไรใดใดโดดขึ้นมาอีกเยอะแยะ

แถมช่วงสิ้นปีโควิดกำลังระบาด ลุงเจัาของที่พักบอกว่าตอนเย็นออกไปกินข้าวอย่างเดียวนะ ห้ามออกไปร้านเหล้า ถ้ากลับมาได้กลิ่นเหล้าจากพวกเธอ เราจะไม่ให้พวกเธอเข้าพัก โหดดดไปอี๊กกกก

สวนสัตว์สุดหลอน Kusatsu Nettaiken

ก่อนจะออกไปกินข้าวเย็นกัน โอชินและเดอะแก๊งค์ได้ตัดสินใจแวะเที่ยวสวนสัตว์ระแวก Kusatsu Onsen สักหน่อย ซึ่งสวนสัตว์นี้อยู่ห่างจากที่พักแค่ 15 นาทีเดินเท้า แต่คือหิมะเยอะมากๆ รองเท้าก็แบบกากๆ ไม่สมควรแก่การเดินไปอย่างยิ่ง555 สวนสัตว์นี้มีชื่อว่า Kusatsu Nettaiken

ว่ากันว่าเป็นสวนสัตว์ที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น (ก็แน่ล่ะสิตั้งอยู่บนเขาอ่ะเนอะ) ความพิสดารแตกต่างจากสวนสัตว์ญี่ปุ่นทั่วไปคือ สัตว์ที่นี่ไม่มีความมุ้งมิ้งน่ารักแต่อย่างใด เพราะที่นี่รวบรวมสัตว์เลื้อยคลานเอาไว้กว่า 300 ชนิด แม่จ้าววว

บอกเลยว่ามีมาครบทั้งเลื้อยคลานเล็กๆตั้งแต่ จิ้งจก ตุ๊กแก รวมไปถึงเลื้อยคลานใหญ่ยักษ์อย่างจระเข้หรืองู

ช่วงที่โอชินไปคือมันเป็นเวลาโพล้เพล้ สวนสัตว์ใกล้ปิดแล้ว แล้วแถมเป็นช่วงโควิดอีก คนไม่มีเลย นับคนได้อ่ะ ทั้งสวนมีแค่กลุ่มอิฉันกับคู่รักญี่ปุ่นอีก 1 คู่ แล้วคือสภาพสวนสัตว์มันร้างๆ เก่าๆ สัตว์ดูหิวๆหลอนๆ เหม็นอีกต่างหาก

คือดูแล้วไม่เหมือนอยู่ในญี่ปุ่นเลย สภาพแย่กว่าสวนสัตว์เขาดินบ้านเราอีกอ่ะ สงสารน้องๆมาก

ค่าเข้าชมก็อย่างที่บอกไปด้านบน พอเข้าไปจะได้เจอกับลิงก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งน้องดูหิวและเกรี้ยวกราดมาก5555

เดินเลยลิงไปหน่อยจะมีโดม ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงสัตว์ป่าเขตร้อน แต่ตอนที่ไปหิมะตกโครตหนาว ในโดมเลยมีความอบอ้าวร้อนชื้นเหม็นตลบอบอวล5555

สำหรับโอชิน รีบเดินรีบกลับหลอนเกินคำบรรยาย แต่ใครรักสัตว์ก็อาจจะชอบก็ได้ ลองไปสักครั้งไม่เสียหาย

แช่ออนเซ็นในที่พัก Kusatsu Onsen

หลังจากผ่านสมรภูมิในสวนสัตว์สุดหลอนไปแล้ว เราเดินทางกลับที่พักเพื่อจะอาบน้ำแช่ออนเซ็นกันหน่อย อืมมแต่คือน้ำร้อนในบ่อที่พักร้อนมากแม่5555555

ลงแช่ไม่ไหวจ้า เหมือนจะต้มให้เนื้อดิฉันสุขยังไงไม่รู้ คิดว่าอุณหภูมิอาจจะสูงถึง 50 องศาก็เป็นได้ สรุปทำได้เพียงอาบน้ำฝักบัวค่าทุ๊กกคน

เอาเป็นว่าอาบน้ำอาบท่าเสร็จเราก็ขับรถออกไปที่ Kusatsu Machi อีกครั้งเพื่อหาอะไรกิน และลงเอยด้วยร้านเนื้อย่าง

Yakiniku Agatsuma

เนื้อย่างร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 50 ปี เป็นการย่างเนื้อสไตล์เตาถ่าน เสิร์ฟมาแบบคำใหญ่ๆ

แน่นอนราคาก็ใหญ่ตามด้วย5555 4 คนหมดไปประมาณ 20,000YEN (6,000THB)

พอกินข้าวอิ่มแล้ว เราก็เดินเล่นรอบๆ Kusatsu Machi อีกรอบเพื่อชมไฟแสงสีเสียงบรรยากาศยามค่ำคืน โรแมนติกไปอีกแบบ พอรู้สึกล้าๆ เลยขอแวะแช่เท้าตรงข้างๆบ่อตรงกลางสักหน่อย หิมะตกโปรยปรายกับ ออนเซ็นอุ่นๆพร้อมหนังท้องตึงๆ ตาโอชินเริ่มหนักลงไปทุกที คืนนี้ขอตัวไปนอนก่อนน๊า เจอกันวันพรุ่งนี้!

วันที่ 2 โอชินจะพาไปเที่ยวไปแบบไม่มีแพลนที่ไหนไปชมกันเลย!!!!