สวัสดีค่า โอชินคนดีคนเดิมเพิ่มเติมคือเอาของเด็ดอาหารทะเลจากแดนปลาดิบมาฝาก!!! ช่วงนี้นะคะมันเป็นช่วงหน้าหนาวของญี่ปุ่นเนอะ
ซึ่งเมื่อเข้าหน้าหนาวในญี่ปุ่นเมื่อไหร่อาหารการกินของคนในประเทศญี่ปุ่นก็จะเปลี่ยนไปจากฤดูอื่นๆ
อ่ะ…หรือจะเรียกง่ายๆว่าอาหารตามฤดูกาลก็ได้!!
ทีนี้อาหารในฤดู”หนาว”จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก
ปูววววววววววว~
ใช่แล้ว วันนี้โอชินจะพาไปกินปูในญี่ปุ่นไปพร้อมๆกัน!!
แต่ก่อนอื่น ก่อนที่โอชินจะพาไปกินปูในญี่ปุ่นแบบจุกๆ (ราคาจุกหรือรสชาติจุกเดี๋ยวรู้เลย5555) เรามารู้จักปูแต่ละสายพันธุ์ในญี่ปุ่นกันก่อน
1.ปูแมงมุม หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Taka Ashi Gani
หน้าตารูปร่างละม้ายคล้ายแมงมุม ดูไม่ค่อยน่าอร่อยแต่ถือว่าเป็นปูที่มีความหายากจนคนญี่ปุ่นแทบจะไม่ค่อยกินกันแล้ว เปลี่ยนมาเป็นอนุรักษ์เผ่าพันธ์ปูแทน5555 เมื่อก่อนคนญี่ปุ่นในแถบจังหวัดชิซุโอกะจะจับเจ้าปูสายพันธุ์นี้ได้
วิธีการนำเจ้าปูญี่ปุ่นสายพันธุ์แมงมุมมาปรุงอาหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นการนำไปต้ม จิ้มกับซีอิ้วโชยุหรือซอสพอนซึ หรือแม้แต่การกินสดๆแบบซาชิมิก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน ว่ากันว่าไอ้เจ้ามันปูในตัวปูสายพันธุ์นี้เนี่ย ฟินเฟอร์~
2.ปูหิมะ หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Zuwaigani
เจ้าปูหิมะนี้นั้น หากอากาศในญี่ปุ่นเริ่มเย็นเมื่อไหร่ก็สามารถหากินได้ง่ายๆเมื่อนั้น เป็นที่นิยมในทุกหมู่ภูมิภาคในญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว นิยมจนขนาดบางพื้นที่จัดเทศกาลกินปูอ่ะเอาสิ้! ลักษณะมันก็จะคล้ายๆเจ้าปูแมงมุมในเรื่องของความผอมในส่วนขา แต่จะแตกต่างกันที่สีและผิวเปลือก นิยมเอามาทำชาบูชาบู จิ้มพอนซุกินกันจ้า
เจ้าปูหิมะนี่แหละที่ตามร้านอาหารในญี่ปุ่นหรือโรงแรมหรูชอบเอามาทำเป็นบุฟเฟ่ย์ขาปูแล้วคนไทยช๊อบชอบ
3.ปูขน หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Kegani
เจ้าปูญี่ปุ่นสายพันธุ์นี้ สังเกตง่ายๆตามชื่อเลย คือน้องนางจะมีขนเต็มตัว และมีขนาดไม่ใหญ่เท่าปูชนิดอื่นๆ แต่บอกเลยว่าเจ้าปูขนเนี่ยหากินง่ายสุด ในความรู้สึกโอชินนะ
เพราะชอบเห็นมันมีขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป และราคายังไม่แรงเท่าปูชนิดอื่นๆด้วย ส่วนตามร้านซูชิก็มีให้กินนะ แต่ไม่ได้ปั้นให้กินเป็นคำๆอย่างปลาหรือกุ้ง แต่จะมาเป็นซุปมิโซะปูขนต่างหาก คือเอามาต้มทั้งตัว ไม่มีแกะให้นะต้องแงะเอง5555
4.ปูยักษ์ หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Tarabagani
เจ้าปูยักษ์สายพันธุ์นี้แหละคือไฮไลท์!!!! เพราะมันตัวใหญ่มากกกกก ปูทาราบะ 1 ตัวมีน้ำหนักเกือบเท่าเด็กทารกแรกเกิดหรือประมาณ 3 กิโล แน่นอนราคาแรงแซงทางโค้ง เพราะมันหาจับได้ยากมากๆ และจะจับได้ในแถบโซนหนาวเหน็บสุดขั้วอย่างฮอกไกโด
ซึ่งมันเป็นโชคดีของโอชินมาก เพราะโอชินไปเจอคนไทยในฮอกไกโดเพื่อนเขาเป็นชาวประมงจับเจ้าปูทาราบะนี้เจ้าค่ะ!!
คือชาวประมงเขาจะออกทะเลไปตกเองเลย ซึ่งแล้วแต่วันว่าวันไหนตกได้วันไหนตกไม่ได้ แล้วเมื่อไหร่ที่เขาตกปูยักษ์นี่ได้เขาถึงจะทำการจัดส่งได้จ่ะ
ส่วนตัวโอชินนั้นอยู่กรุงโตเกียว เลยติดต่อคุณพี่คนไทยในฮอกไกโดไปเพื่อทำการสั่งเจ้าปูยักษ์นี่มากินสักครั้งในชีวิต
ซึ่งพอชาวประมงเขาตกปูได้ เขาจะทำการต้มให้ทันทีและส่งตรงมาทางไปรษณีย์เลย ข้อเสียคือเราไม่สามารถเลือกเวลารับปูได้ ดังนั้นใครอยากกินต้องเป็นคนว่างๆอยู่บ้านจริงๆ555
ปริมาณ | 3 kg. |
ราคา | 20,000Yen (6,000THB) |
ระยะเวลาในการรอเจ้าปูตัวนี้เนี่ยประมาณอาทิตย์กว่าๆ ไหนจะพายุเข้าออกเรือไม่ได้ ไหนจะออกแล้วตกไม่ได้ บลาๆ ใดใดแต่สุดท้ายก็ได้กินจนได้55555
รสชาติปูยักษ์ญี่ปุ่นตัวนี้ละม้ายคล้ายปูอัดแบบแพงๆ แค่ขาปูขาเดียวก็จุกแล้วจ้า ปู 1 ตัวควรค่าแก่การกินประมาณ 4 คนน่าจะพอดี โอชินกินกัน 2 คน ปรากฎว่าไม่หมดจ้า
เหลือเก็บกินได้อีกมื้อ 55555 อ่ะๆจะอร่อยจ๊วบจ๊าบแค่ไหนไปดูในคลิปได้เลยยยยยย
อ่อลืมบอกไปว่าเจ้าปูยักษ์เนี่ยไม่ได้หากินเมื่อไหร่ก็ได้นะ มันจะมีแค่ช่วงเดือน มิถุนายน-ธันวาคมเท่านั้น และตัวที่โอชินกินตัวนี้เป็นตัวสุดท้ายที่ชาวประมงคนนี้ตกได้เลยเชียว!
ใครอยากได้ลายแทงพี่คนไทยในฮอกไกโดเพื่อเอาไปสั่งปูยักษ์ญี่ปุ่นมากินแซ่บๆ ถ่ายลงไอจีเบาๆทักมาถามกันหลังไมค์ในอินบ็อกซ์เฟซบุคได้เลยจ้า
สำหรับใครที่ไม่ค่อยชอบปูสายพันธุ์ญี่ปุ่น เพราะคิดว่ารสชาติมันเหมือนปูอัดเนื้อไม่แน่นเหมือนปูไทย ปูไทยๆอย่างปูม้าที่นี่ก็มีเด้ออ แต่โอชินไม่เสียเงินซื้อนะ ไปจับเอาเองในทะเลเลย อ่านต่อได้ที่นี่