การเรียนภาษาญี่ปุ่นที่โรงเรียนสอนภาษาในประเทศญี่ปุ่นเลยนั้นต้องบอกก่อนเลยว่าสามารถทำได้ไม่ยาก ถ้าคุณมีเงินทุนพอที่สามารถจ่ายค่าเทอมและค่ากินอยู่ที่นี่ได้ เพราะมันไม่ต้องสอบเข้าเหมือนการเรียนมหาลัยปริญญาตรีหรือปริญญาเอก หรือแม้แต่การมาเรียนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนก็เถอะ

ซึ่งสมัยที่โอชินมาที่ญี่ปุ่นใหม่ๆเริ่มต้นมาจากการมาเพื่อเรียนคอร์สภาษาญี่ปุ่น 1 ปี ในโรงเรียนสอนภาษาโดยเฉพาะคือ จะไม่มีการเรียนอย่างอื่นเลยนอกจากภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ ซึ่ง ณ ตอนนั้น คือการย้อนไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เป็นช่วงเวลาที่โอชินกำลังใกล้จะเรียนจบมหาวิทยาลัยวุฒิปริญญาตรีพอดี

ค่าใช้จ่ายในการเรียนอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นี่เป็นแค่กรณีศึกษาข้อมูลของจริงเมื่อ 4 ปีที่แล้วนะคะ

ค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมก่อนยื่นเรื่องทำวีซ่าเพื่อไปเรียนต่อในโรงเรียนภาษาที่ประเทศญี่ปุ่น

ข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้ต้องถูกโอนเงินไปทางธนาคารของโรงเรียนสอนภาษาที่ประเทศญี่ปุ่นนะคะ จากนั้นเราถึงจะเริ่มทำเรื่องวีซ่าค่ะ ซึ่งการทำวีซ่าไปเรียนต่อนั้นทางโรงเรียนก็จะคอยบอกเราว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ซึ่งโอชินจำไม่ค่อยได้แล้ว แต่ที่ยังพอจำได้คือจะต้องใช้ Statement ของตัวเองหรือญาติที่เป็นสายเลือดเดียวกันเท่านั้น เช่น พ่อ แม่ พี่ น้องที่เกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน ป้า ลุงอะไรแบบนี้ไม่ได้

และคนที่จะมาเป็น Sponsor ให้เราจะต้องมีเงินในบัญชีอัพเดตล่าสุดก่อนการยื่นขอวีซ่าอยู่ที่ประมาณ 900,000 บาท ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านไปหลายปีแล้วกฎเกณฑ์ต่างๆและค่าเล่าเรียนก็ได้เปลี่ยนไปแล้วอัพเดตล่าสุดเมื่อตอนเดือน มิถุนายนปี 2020 อัพเดตล่าสุดจากโรงเรียนที่โอชินเคยเรียนได้ความมาว่าค่าใช้จ่ายเป็นดังนี้ค่ะ

รายละเอียดค่าใช้จ่าย UPDATED JUNE 2020

ดูเหมือนว่าราคาจะแพงขึ้นมานิดหน่อยนะคะ แต่เห็นทางโรงเรียนแจ้งว่าสามารถแบ่งจ่ายได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นแต่ละโรงเรียนจะมีนโยบายและค่าใช้จ่ายไม่เหมือนกันค่ะ

และสำหรับใครที่กำลังสนใจอยากไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นแต่ไม่อยากไปนานขนาด 1 ปี แต่ละโรงเรียนก็จะมีคอร์สระยะสั้นให้ด้วยนะคะ ซึ่งราคาค่าใช้จ่ายคือ

ราคาค่าใช้จ่ายสำหรับการเรียนภาษาญี่ปุ่นระยะสั้นที่ญี่ปุ่น

ข้อมูลค่าใช้จ่ายคอร์สระยะสั้น 1-3 เดือนราคานี้รวมอะไรบ้าง?

ราคาค่าใช้จ่ายข้างต้นรวม ค่าเรียน, ค่าที่พัก, ค่ารับ-ส่งสนามบิน, ค่าแรกเข้า, ค่าที่นอนใหม่

นอกเหนือจากนี้ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรไปเพิ่ม?

ค่าตั๋วเครื่องบิน, ค่าใช้จ่ายส่วนตัว, ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ค่าประกันสุขภาพและประกันเดินทาง (นักเรียนเป็นคนจัดการเอง) 

สรุปแล้วควรมาเรียนภาษาญี่ปุ่นแบบคอร์สระยะสั้นหรือระยะยาว?

ราคาแตกต่างกันอย่างสมเหตุสมผลนะคะ แต่ถ้าจะให้โอชินแนะนำว่าถ้าอยากได้ภาษาจริงๆควรมาเรียนที่ญี่ปุ่นขั้นต่ำ 1 ปีค่ะ และไม่ควรมีเพื่อนคนไทยเลยโดยเฉพาะรูมเมท ถ้ารีเควสได้ควรเลือกอยู่กับรูมเมทต่างชาติที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วเราจะได้พัฒนาภาษาญี่ปุ่นอย่างรวดเร็วค่ะ

ส่วนตัวโอชินเองได้รูมเมทเป็นคนรัสเซียกับคนพม่าค่ะ ซึ่งสองคนนี้พูดภาษาญี่ปุ่นเก่งมากระดับ N2 พวกเค้าจะดูทีวีทำงานพาร์ทไทม์กันเยอะมากๆ คือเป็นการทำให้เราต้องพัฒนาตัวเองไปตามเค้าให้ทันค่ะ อ่อลืมบอกไปนะคะ ราคาหอพักนี้คือห้องหนึ่งจะนอน 2-3 คนแล้วแต่ดวงค่ะ ถ้าอยากฟังโอชินเม้ามอยเรื่องหอพักไปตามอ่านใน Pantip นะคะเมามันส์มาก5555

https://pantip.com/topic/39798837

สำหรับใครที่อยากทำพาร์ทไทม์งานพิเศษอย่างถูกต้องตามกฎหมายนะคะ คือต้องมาเรียนคอร์ส 1 ปีขึ้นไปค่ะ วีซ่าของคุณถึงจะสามารถทำงานได้เพราะคุณจะได้วีซ่าประเภทนักเรียนเพราะหากเป็นคอร์สระยะสั้นคุณจะมาในฐานะวีซ่าประเภทท่องเที่ยวค่ะมันทำงานไม่ได้ ซึ่งวีซ่าประเภทนักเรียนของญี่ปุ่นสามารถทำงานได้ สัปดาห์ละ 28 ชั่วโมง แต่ถ้าหากในช่วงปิดเทอมจะสามารถทำได้มากสุด 40 ชั่วโมงค่ะ ซึ่งค่าแรงขั้นต่ำและการทำงานพาร์ทไทม์จะเป็นอย่างไรนั้นมาดูกัน !!

น้องๆเพื่อนๆพี่ๆคนไหนอยากเรียนโรงเรียนเดียวกับโอชิน สอบถามกันเข้ามาหลังไมค์ได้นะคะ ทักมาคุยกันได้ที่ www.facebook.com/oshinpala แต่ถ้าถามว่าแนะนำไหม……. แฮะๆตอบยากจังเล๊ยยยย

คลิปบรรยากาศการทำงานในบริษัทญี่ปุ่น